5 กลยุทธ์การเทรดทองที่มืออาชีพใช้
- SpringZol
- Mar 8
- 2 min read
Updated: Apr 23
การเทรดทอง (Gold Trading) เป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนและเทรดเดอร์ เนื่องจากทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยและมีแนวโน้มที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม การทำกำไรจากตลาดทองไม่ได้ง่ายเสมอไป ดังนั้น การใช้ กลยุทธ์ที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสทำกำไร
ในบทความนี้ เราจะเจาะลึก 5 กลยุทธ์ที่เทรดเดอร์มืออาชีพใช้ พร้อมอธิบายเทคนิคที่ใช้ในแต่ละกลยุทธ์ แบบละเอียด ✅

1. Scalping – เทรดระยะสั้นเพื่อเก็บกำไรจากการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ
📌 แนวคิดของกลยุทธ์:
Scalping เป็นการ เข้าเร็ว-ออกเร็ว โดยทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาทองเพียงไม่กี่ Pip หรือไม่กี่จุด ในระยะเวลาไม่กี่นาที
✅ เทคนิคที่ใช้:
🔹 ใช้ Timeframe สั้น (M1, M5, M15) → เทรดเดอร์ Scalper ต้องใช้กรอบเวลาสั้นเพื่อจับจังหวะการเคลื่อนไหวของราคา🔹 ใช้ Indicator ที่ช่วยระบุทิศทางได้เร็ว
Moving Average (EMA 9 & EMA 21) → หาแนวโน้มสั้น ๆ
Bollinger Bands → ดูแรงส่งของตลาด
RSI (Relative Strength Index) → ตรวจสอบสภาวะ Overbought หรือ Oversold
🔹 ตั้ง Stop Loss 5-10 Pips และ Take Profit ที่ 10-15 Pips เพื่อรักษาอัตราส่วน Risk:Reward
🔹 เทรดเฉพาะช่วงตลาดมี Volume สูง (ช่วงตลาดลอนดอน & นิวยอร์ก)
⚠️ ข้อควรระวัง:
Scalping ใช้ Leverage สูง อาจเกิดการขาดทุนเร็ว
ควรใช้ โบรกเกอร์ที่มี Spread ต่ำ เพื่อให้ต้นทุนไม่สูงเกินไป
2. Swing Trading – เทรดตามแนวโน้มและถือออเดอร์หลายวัน
📌 แนวคิดของกลยุทธ์:
Swing Trading เป็นการถือออเดอร์ 2-5 วัน เพื่อให้ราคามีโอกาสเคลื่อนที่ไปตามแนวโน้มหลัก
✅ เทคนิคที่ใช้:
🔹 ใช้ Timeframe 4H หรือ Daily → มองหาการกลับตัวของราคาในกรอบที่กว้างขึ้น🔹 ใช้ Fibonacci Retracement → เพื่อหาจุดเข้าเทรดเมื่อตลาด Pullback🔹 ดูแนวรับ-แนวต้าน (Support & Resistance) → หาจุดที่ราคามักกลับตัว🔹 ใช้ Price Action ร่วมกับ Indicator
Moving Average (EMA 50, EMA 200) → ดูแนวโน้มหลัก
MACD (Moving Average Convergence Divergence) → ดูโมเมนตัมของราคา
RSI (Relative Strength Index) → บ่งบอกการอ่อนแรงของแนวโน้ม
⚠️ ข้อควรระวัง:
Swing Trading ต้องอดทนและไม่รีบออกออเดอร์เร็วเกินไป
อาจต้องถือออเดอร์ข้ามคืน ทำให้มี ค่า Swap
3. Trend Following – เทรดตามแนวโน้มหลักเพื่อทำกำไรระยะยาว
📌 แนวคิดของกลยุทธ์:
Trend Following เป็นการเทรดที่เน้น จับแนวโน้มใหญ่ของทองคำ โดยเทรดเดอร์จะรอให้ตลาดมี ทิศทางชัดเจน ก่อนเข้าทำกำไร
✅ เทคนิคที่ใช้:
🔹 ใช้ Timeframe Daily หรือ Weekly → เพื่อติดตามแนวโน้มใหญ่ของทองคำ🔹 ใช้ Moving Average Cross Over
EMA 50 ตัดขึ้น EMA 200 = สัญญาณซื้อ
EMA 50 ตัดลง EMA 200 = สัญญาณขาย
🔹 Breakout Trading → รอให้ราคาทะลุแนวต้านสำคัญก่อนเข้าเทรด
🔹 ใช้ ADX (Average Directional Index) ดูความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
ค่า ADX > 25 → แนวโน้มแข็งแกร่ง
ค่า ADX < 20 → ตลาด Sideway
⚠️ ข้อควรระวัง:
การเข้าออเดอร์เร็วเกินไปอาจทำให้ติดกับดักตลาดปลอม (Fakeout)
4. News Trading – เทรดตามข่าวเศรษฐกิจสำคัญ
📌 แนวคิดของกลยุทธ์:
ราคาทองคำมักตอบสนองต่อข่าวเศรษฐกิจ เช่น Non-Farm Payrolls (NFP), GDP, อัตราดอกเบี้ยของ Fed
✅ เทคนิคที่ใช้:
🔹 ติดตาม Economic Calendar (เช่น Forex Factory) → เพื่อรู้วันประกาศข่าวสำคัญ🔹 ใช้ Pending Orders (Buy Stop/Sell Stop) ก่อนข่าวออก → เพื่อเก็งกำไรจากความผันผวน🔹 เทรดข่าวที่ส่งผลต่อทองโดยตรง เช่น
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า → ราคาทองมักร่วง
อัตราเงินเฟ้อสูง → ราคาทองมักพุ่ง
🔹 ดูปฏิกิริยาของตลาดหลังข่าวออก → หากราคาวิ่งไปทิศทางตรงข้ามกับข่าว ให้รอให้ตลาดนิ่งก่อนเข้าเทรด
⚠️ ข้อควรระวัง:
Spread อาจขยายกว้างหลังข่าวออก
ตลาดอาจมี Slippage ทำให้เข้าออเดอร์ในราคาที่ไม่ต้องการ
5. Mean Reversion – เทรดเมื่อราคาห่างจากค่าเฉลี่ยมากเกินไป
📌 แนวคิดของกลยุทธ์:
ราคาทองมักมีการ แกว่งตัวกลับสู่ค่าเฉลี่ย ทำให้ Mean Reversion เป็นกลยุทธ์ที่สามารถใช้ทำกำไรได้
✅ เทคนิคที่ใช้:
🔹 ใช้ Bollinger Bands → ซื้อเมื่อราคาชนขอบล่าง, ขายเมื่อราคาชนขอบบน🔹 ใช้ RSI (Relative Strength Index)
RSI < 30 → ราคาทองอาจเกิดการกลับตัวขึ้น
RSI > 70 → ราคาทองอาจเกิดการกลับตัวลง
🔹 ใช้ Moving Average เป็นแนวรับแนวต้าน เช่น SMA 50, SMA 200
⚠️ ข้อควรระวัง:
ไม่ควรใช้กลยุทธ์นี้เมื่อทองอยู่ใน Trend แข็งแกร่ง
สรุป
เลือกกลยุทธ์ที่เหมาะกับสไตล์ของคุณ
✅ ชอบเทรดเร็ว → Scalping
✅ อยากถือออเดอร์หลายวัน → Swing Trading
✅ อยากเกาะกระแสแนวโน้มใหญ่ → Trend Following
✅ ชอบเทรดตามข่าว → News Trading
✅ ชอบเทรดตลาด Sideway → Mean Reversion
Comments