Spread, Pip และ Pipette ต่างกันอย่างไร? สิ่งที่เทรดเดอร์ต้องรู้ก่อนเข้าเทรด!
- SpringZol
- Mar 17
- 2 min read
(Spread, Pip, and Pipette – What’s the Difference? A Must-Know Guide for Traders!)
📌 ถ้าคุณยังงงว่า Spread, Pip และ Pipette คืออะไร… มาทำให้มันง่ายกันเถอะ!
เคยสงสัยไหมว่าตอนที่คุณเปิดออเดอร์แล้วมันติดลบตั้งแต่แรก ทำไม? 🤔 หรือบางทีคุณเห็นคำว่า “Spread ต่ำ” “Pip” “Pipette” ในโฆษณาโบรกเกอร์ แล้วไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกับอะไร?
ข่าวดี! วันนี้เราจะมาทำให้เรื่องนี้ เข้าใจง่ายสุด ๆ ให้คุณเทรดได้แบบมั่นใจ ไม่ต้องงงกับคำศัพท์อีกต่อไป! 🚀

🎯 Pip คืออะไร?
Pip (Price Interest Point) เป็นหน่วยเล็กที่สุดที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาคู่เงินใน Forex และทองคำ
📌 ตัวอย่างง่าย ๆ:
EUR/USD จาก 1.1000 → 1.1001 👉 ขึ้นมา 1 Pip
USD/JPY จาก 145.50 → 145.51 👉 ขึ้นมา 1 Pip
XAU/USD (ทองคำ) จาก 1900.50 → 1900.60 👉 ขึ้นมา 1 Pip
💡 สรุปง่าย ๆ: Pip ก็คือหน่วยวัดว่า ราคาขยับขึ้นลงเท่าไหร่ นั่นเอง!
💰 Spread คืออะไร? แล้วทำไมเราต้องเสียเงินตั้งแต่เปิดออเดอร์?
Spread คือ ส่วนต่างระหว่างราคา Bid (ราคาขาย) และ Ask (ราคาซื้อ) หรือก็คือค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์คิดจากเรา
📌 ดูง่าย ๆ จากแพลตฟอร์มเทรดของคุณ
ถ้าราคาซื้อ (Ask) อยู่ที่ 1.1002
ราคาขาย (Bid) อยู่ที่ 1.1000
Spread = 2 Pip
💡 นี่คือเหตุผลว่าทำไมเวลาเปิดออเดอร์มันติดลบก่อน! เพราะเราต้องจ่ายค่า Spread ให้โบรกเกอร์นั่นเอง
🔹 โบรกเกอร์ Spread ต่ำ vs. Spread สูง ต่างกันยังไง?
โบรกเกอร์ที่ Spread ต่ำ (เช่น 0.1 – 1.0 Pip)
✅ ดีสำหรับ Scalping และ Day Trading
✅ เทรดต้นทุนต่ำ กำไรเร็ว
❌ อาจมีค่าคอมมิชชั่นเพิ่ม (บัญชี ECN)
โบรกเกอร์ที่ Spread สูง (เช่น 2.0 – 5.0 Pip)
✅ ดีสำหรับ Swing Trading และ Position Trading
✅ ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
❌ อาจต้องรอราคาวิ่งเยอะขึ้นเพื่อให้คุ้มค่ากับ Spread
📌 ถ้าคุณเป็น Scalper (เทรดสั้น) ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มี Spread ต่ำที่สุด!
🔍 Pipette คืออะไร? ทำไมบางโบรกเกอร์มีเลขทศนิยม 5 ตำแหน่ง?
บางโบรกเกอร์แสดงราคาแบบ 5 ตำแหน่งทศนิยม เช่น EUR/USD = 1.10001
ทศนิยมตำแหน่งที่ 4 (1.1000 → 1.1001) คือ 1 Pip
ทศนิยมตำแหน่งที่ 5 (1.10001 → 1.10002) คือ 1 Pipette
📌 1 Pip = 10 Pipette
💡 โบรกเกอร์ที่ใช้ 5 ตำแหน่งทศนิยมจะให้ Spread ละเอียดกว่า และมีประโยชน์สำหรับ Scalper ที่ต้องการความแม่นยำสูง
📊 ตัวอย่างการคำนวณ Pip และ Spread ในการเทรดจริง
ตัวอย่าง 1: EUR/USD (โบรกเกอร์แบบ 4 ตำแหน่งทศนิยม)
ราคา Bid = 1.1000
ราคา Ask = 1.1002
Spread = 2 Pip
ตัวอย่าง 2: EUR/USD (โบรกเกอร์แบบ 5 ตำแหน่งทศนิยม)
ราคา Bid = 1.10000
ราคา Ask = 1.10015
Spread = 1.5 Pip หรือ 15 Pipette
ตัวอย่าง 3: ทองคำ (XAU/USD)
ราคา Bid = 1900.50
ราคา Ask = 1900.55
Spread = 0.5 Pip
📌 ทองคำมักมี Spread สูงกว่าคู่เงิน Forex เพราะเป็นตลาดที่มีความผันผวนสูง!
🎯 สรุปสั้น ๆ: Scalping หรือ Swing Trading ควรใช้ Spread แบบไหน?
กลยุทธ์ | Spread ที่เหมาะสม |
Scalping (เทรดสั้น) | 0.1 - 1.0 Pip (บัญชี ECN) |
Day Trading (ถือไม่เกินวัน) | 1.0 - 2.0 Pip |
Swing Trading (ถือเป็นวัน-สัปดาห์) | 1.5 - 3.0 Pip |
Position Trading (ถือเป็นเดือน) | 2.0 - 5.0 Pip |
✅ ถ้าเทรดสั้น (Scalping) ต้องเลือกโบรกเกอร์ Spread ต่ำที่สุด✅ ถ้าเทรดยาว (Swing Trading) Spread สูงไม่ใช่ปัญหา ตราบใดที่ตลาดวิ่งแรง
💡 เทคนิคเลือกโบรกเกอร์ที่มี Spread ต่ำที่สุด
1️⃣ เลือกบัญชี ECN (ถ้าคุณใช้ Scalping) – ค่าคอมมีแต่ Spread ต่ำมาก
2️⃣ ใช้โบรกเกอร์ที่มีบัญชี Raw Spread – Spread เริ่มต้นที่ 0.0 Pip
3️⃣ หลีกเลี่ยงโบรกเกอร์ที่มี Spread ผันผวนหนัก – โดยเฉพาะตอนข่าวแรง ๆ
4️⃣ เช็คว่าโบรกเกอร์ใช้ทศนิยม 4 หรือ 5 ตำแหน่ง – ถ้าคุณต้องการความแม่นยำสูง ให้เลือกแบบ 5 ตำแหน่ง
🔎 สรุป: สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนเทรด!
📌 Pip = หน่วยวัดการเคลื่อนที่ของราคา
📌 Spread = ค่าธรรมเนียมที่เราจ่ายให้โบรกเกอร์ทุกครั้งที่เปิดออเดอร์
📌 Pipette = ค่าที่ละเอียดกว่า Pip ใช้กับโบรกเกอร์ที่มีทศนิยม 5 ตำแหน่ง
✅ ถ้าเทรด Scalping → เลือกโบรกเกอร์ที่มี Spread ต่ำสุด (0.1 - 1.0 Pip)
✅ ถ้าเทรด Swing Trading → Spread สูงหน่อยไม่เป็นไร แค่เลือกโบรกที่น่าเชื่อถือ
✅ ใช้โบรกเกอร์ที่แสดงราคาแบบ 5 ตำแหน่ง ถ้าคุณต้องการความแม่นยำสูง
🚀 ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้ คุณพร้อมเข้าใจ Spread, Pip และ Pipette แล้ว! ไปลองดูโบรกเกอร์ที่คุณใช้อยู่ตอนนี้ แล้วดูว่า Spread ของมันเป็นยังไง!
📌 คุณใช้โบรกเกอร์ไหนอยู่? Spread เป็นยังไงบ้าง?
Comments